การประเมินคุณค่าทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
ในปี พ.ศ.2541 กรมป่าไม้โดยกลุ่มเศรษฐกิจป่าไม้ ส่วนวิจัยเศรษฐกิจและพัฒนาการจัดการป่าไม้ สำนักวิชาการร่วมกับศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันดำเนินการประเมินคุณค่าทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรณีศึกษาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ทั้งนี้เพราะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเป็นป่าขนาดใหญ่ทางด้านตะวันตกของประเทศ มีสภาพพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติประเภทต่างๆ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งที่มีคุณค่าทางวิชาการและความงดงามทางธรรมชาติที่หายากและในปี พ.ศ.2535 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นผืนป่าเดียวกันได้รับการประกาศให้เป็น “ มรดกทางธรรมชาติของโลก ” | |||||||||||||||||||||||||||||||
การศึกษาครั้งนี้โดยการวิเคราะห์หามูลค่าทางเศรษฐศาสตร์รวม (Total Economic Value) ของพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยมูลค่าจากการใช้โดยตรงมูลค่าจากการใช้โดยอ้อม (Direct and Indirect Use Values) และมูลค่าจากการมิได้ใช้ทรัพยากรนั้น (Non – Use Value) โดยมีข้อสมมติว่าคุณค่าที่เกิดขึ้นจากทรัพยากรต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งถือเป็นหน่วยเดียว นอกจากนี้สังคมในฐานะผู้ได้รับคุณประโยชน์จากทรัพยากรในรูปต่างๆ จะเป็นผู้ประเมินหรือให้มูลค่า ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วยผู้ใช้ประโยชน์และผู้ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากร โดยผู้ใช้ประโยชน์ได้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวกันชน (Buffer Zone) และประชาชนภายนอกที่เข้าไปใช้ประโยชน์ทรัพยากรในกิจกรรมแบบต่างๆ เช่น การศึกษาวิจัย กิจกรรมสั่งงานศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมนันทนาการ ฯลฯ สำหรับผู้ไม่ได้ใช้ประโยชน์จะครอบคลุมถึงประชาชนคนไทยทั่วประเทศ | |||||||||||||||||||||||||||||||
การประเมินมูลค่าทรัพยากรจากผู้ใช้ประโยชน์ที่อาศัยอยู่บริเวณแนวกันชน
จะใช้แบบสอบถามจากตัวอย่าง
จำนวน 179 ครัวเรือน
ที่อาศัยอยู่ตามแนวกันชนชั้นในและชั้นนอกของหมู่บ้าน
จำนวน 6 หมู่บ้าน
วิธีการประเมินมูลค่าโดยอาศัยมูลค่าตลาดของทรัพยากร
การประเมินมูลค่าทรัพยากรจากผู้ใช้ประโยชน์ที่เป็นบุคคลภายนอก
ใช้แบบสอบถาม
โดยจัดส่งทางไปรษณีย์
จำนวน 298 ราย
ตามจำนวนรายชื่อพร้อมที่อยู่ที่รวบรวมได้
และมีตอบกลับจำนวน 154 ราย
คิดเป็นร้อยละ 52
วิธีการประเมินมูลค่าสำหรับกลุ่มนี้ใช้เทคนิคการสำรวจความยินดีจ่าย
การประเมินมูลค่าทรัพยากรจากประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่
ใช้แบบสอบถามจากตัวอย่างที่สุ่มใน
จำนวน 12
จังหวัดทั่วประเทศคิดเป็น
864 ตัวอย่าง
วิธีการประเมินใช้เทคนิคการสำรวจความยินดีจ่าย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
ตามนโยบายการจัดการพื้นที่อนุรักษ์ของรัฐ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติต่างๆ
ของรัฐดังนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
คุณประโยชน์โดยตรงในด้านเป็นแหล่งเนื้อไม้หรือของป่า
แม้จะไม่ปรากฎให้เห็นตามข้อห้ามของพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
แต่คุณค่าโดยตรงอย่างอื่นที่ได้รับจากผืนป่าแห่งนี้ก็มีอยู่มากมาย
เช่น
เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรมของพันธุ์พืชที่หายาก
รวมทั้งเป็นแหล่งรวมของพืชสมุนไพรที่หายาก
ซึ่งบางชนิดอาจใช้เป็นยารักษาโรคที่ยังรักษาไม่หายในอนาคตได้
และพื้นที่ป่าบริเวณนี้ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์
จึงทำให้เป็นแหล่งทางวิชาการและห้องปฏิบัติการของด้านชีววิทยาและนิเวศวิทยาที่สำคัญยิ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
คุณประโยชน์ทางอ้อมเป็นแหล่งอนุรักษ์น้ำให้แก่ลุ่มน้ำหลายสายตลอดจนเป็นแหล่งเอื้ออำนวยให้ฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต้นน้ำ เนื่องจากความเย็นจากเรือนยอดต้นไม้ในป่า ลดการชะล้างพังทะลายของดิน นอกจากนี้ยังชะลอความรุนแรงของลมพายุที่พัดมาจากทะเลอันดามัน ทำให้บรรเทาอุทกภัยในพื้นที่เรือกสวนไร่นาบริเวณดังกล่าว | |||||||||||||||||||||||||||||||
การศึกษาโครงการประเมินคุณค่าทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์กรณีศึกษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งนั้น ในที่นี้คุณค่าของทรัพยากรมีความหมายเดียวกับมูลค่าสุทธิหรือประโยชน์สุทธิที่สังคมได้รับจากทรัพยากร ดังนั้นวิธีการศึกษาหลักจะใช้วิธีการใช้ราคาการตลาด ในการวิเคราะห์กรณีที่ทรัพยากรมีระบบตลาดรองรับ และใช้วิธีการใช้เทคนิคการสำรวจที่เรียกว่า Contingent Valuation Approach ในกรณีที่ทรัพยากรไม่มีระบบตลาดรองรับ โดยเป็นการสำรวจความยินดีที่จะจ่าย (Willingness to pay) ของบุคคลในสังคมซึ่งจะนำไปสู่การวิเคราะห์ผลประโยชน์สุทธิที่สังคมจะได้รับจากทรัพยากร การประเมินคุณค่าของทรัพยากรในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประกอบด้วยการประเมินคุณค่าต่างๆ ดังนี้ | |||||||||||||||||||||||||||||||
1.
คุณค่าที่เกิดจากการใช้โดยตรง
(Direct use value)
ประเมินได้จากคุณประโยชน์ของทรัพยากรในพื้นที่ป่า
ได้แก่ ที่ดิน
ทรัพยากรที่ดิน
พืชและสัตว์
ที่เอื้อต่อการผลิตตลอดจนการใช้ประโยชน์โดยตรง
เช่น เพื่อการศึกษาวิจัย
และเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
(Recreation)
2.
คุณค่าที่เกิดจากการใช้โดยอ้อม
(inderect use value)
ประเมินคุณประโยชน์ของป่าอนุรักษ์ที่สังคมได้รับจากการเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
(watershed) แหล่งกำบังลมพายุ
และแหล่งบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่าง
3.
คุณค่าเผื่อจะใช้ประโยชน์
(option value)
ประเมินได้จากการที่สังคมให้มูลค่าแก่ป่าอนุรักษ์เผื่อว่าจะใช้ประโยชน์ทั้งทางตรงและ/หรือทางอ้อมในอนาคต
4.
คุณค่าที่เกิดจากการดำรงอยู่เพื่อทำหน้าที่ของป่า
(existence value)
ประเมินได้จากการที่สังคมให้มูลค่าป่าจากการเก็บรักษาไว้เป็นป่าอนุรักษ์
ซึ่งก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในด้านการรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์
การดำรงอยู่ของสัตว์ป่าและพืชพรรณที่หายาก
อิทธิพลของทรัพยากรป่าไม้ที่มีต่อภูมิอากาศโลก
(climate)
ตลอดจนการดำรงอยู่ของความหลากหลายทางชีวภาพ
(biodiversity)
5.
คุณค่าที่เกิดจากการไม่ใช้แต่เก็บไว้ให้ลูกหลาน
(bequest value)
เป็นคุณค่าที่สังคมให้กับการเก็บรักษาไว้เป็นป่าอนุรักษ์
เพื่อเป็นโอกาสให้สำหรับลูกหลาน
(future gerneration)
จะใช้ประโยชน์ในอนาคต |
|||||||||||||||||||||||||||||||
คุณค่าของเขตป่าอนุรักษ์แบ่งตามประเภทของมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
คุณค่าทั้งหมดของทรัพยากรในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจะได้จากการรวม มูลค่าที่ได้จากการประเมินค่าของกลุ่มผู้ใช้และผู้มิได้ใช้ โดยกลุ่มผู้ใช้ประกอบด้วย ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวกันชนและประชาชนทั่วไปที่เคยเข้าใช้พื้นที่ ส่วนกลุ่มผู้มิได้ใช้ หมายถึง ประชาชนชาวไทยทั่วไปที่ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ ฯลฯ การศึกษาวิจัยในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า คุณค่าของทรัพยากรเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สามารถคิดเป็นมูลค่ารวม = 28,430,330,000 บาท/ปี | |||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||
ที่มา
: จากการคำนวณ
หมายเหตุ *คุณค่าที่ได้ในส่วนนี้ถือว่าได้มาจากการรวมประชาชนที่อาศัยอยู่จำนวณแนวกันชนไว้เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนจำนวน 60 ล้านคน |
|||||||||||||||||||||||||||||||
เอกสารอ้างอิง
|
มีคำกล่าวจากคณะคณาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอน แก่ศิษย์ผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งว่า "วิชาเศรษฐศาสตร์มิใช่การศึกษาเฉพาะตัวเลข การเคลื่อนย้ายเส้นบนกราฟ การใช้ศัพท์วิชาการที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่เข้าใจได้ฟัง แต่วิชาเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาเพื่อให้ประชาชนในรัฐเกิดสวัสดิการสังคมสูงสุดทั้ง ทางด้านประสิทธิภาพ ด้านเสถียรภาพ และด้านความเสมอภาค"
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
การประเมินคุณค่าทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น